ศาลหลักเมืองจังหวัดอุดรธานี

ศาลหลักเมือง อุดรธานีเป็นศูนย์รวมความเคารพและความศรัทธา ซึ่งชาวเมืองอุดรธารีมักจะพากันมาสักการะบูชา






ศาลหลักเมืองอุดรธานี
วันที่ 29 มกราคม 2551 ของทุกปี ถือเป็นวันที่ระลึกวันเปิดศาลหลักเมืองอุดรธานี ซึ่งในปี 2551 นี้ถือเป็นปีที่ 9 ของการเปิดศาลหลักเมือง ซึ่งแต่ละปีมูลนิธิเพื่อทำนุบำรุงศาลหลักเมืองจังหวัดอุดรธานี โดย นายคอน พลน้ำเที่ยง ประธานมูลนิธิเพื่อทำนุบำรุงศาลหลักเมืองจังหวัดอุดรธานี ได้จัดการบวงสรวงศาลหลักเมืองเป็นประจำทุกปี และมีกลุ่มสตรีชาวจังหวัดอุดรธานีนับร้อยคนร่วมรำบวงสรวง


นายคอน พลน้ำเที่ยง ประธานมูลนิธิเพื่อทำนุบำรุงศาลหลักเมืองจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า คณะกรรมการมูลนิธิเพื่อทำนุบำรุงศาลหลักเมืองจังหวัดอุดรธานี ได้กำหนดจัดงานวันที่ระลึกวันเปิดศาลหลักเมืองอุดรธานีทุกปี โดยปีนี้ถือเป็นปีที่ 9 ของวันเปิดศาลหลักเมืองอุดรธานี และถือเป็นประเพณีอันดีงามที่ชาวจังหวัดอุดรธานีถือปฏิบัติสืบทอดกันมา


ประวัติศาลหลักเมืองอุดรธานี
จังหวัดอุดรธานีเป็นเมืองเก่าแก่ในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากเป็นดินแดนอารยธรรมของมนุษยชาติ แห่งมรดกโลกบ้านเชียง หลักฐานทางโบราณคดีในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ณ บริเวณบ้านเชียงมรดกโลก มีความเก่าแก่อายุประมาณ ๕,๐๐๐-๗,๐๐๐ ปี และจากแหล่งโบราณสถาน บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์ ภูพระบาท ซึ่งปรากฏภาพเขียนสีของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ ๔,๐๐๐ปี ส่วนประวัติศาสตร์ การสร้างบ้านแปลงเมืองจากบ้านเดื่อหมากแข้งและพัฒนามาเป็นจังหวัดอุดรธานีในปัจจุบัน เริ่มต้นจาก ร.ศ. ๑๑๒ ในสมัยแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่๕ ในช่วงที่ประเทศสยามถูกคุกคามจากต่างชาติ ต้องเสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงและสนธิสัญญาที่ถูกบังคับจากต่างชาติ จึงมีความจำเป็นที่ต้องวางระเบียบแบบแผนในการจัดหัวเมืองชายแดนให้สงบเรียบร้อยหลังจากสงครามปราบฮ่อ พระเจ้าน้องยาเธอ พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม พระผู้เป็นกำลังสำคัญของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในครั้งนั้น ได้ทรงพิจารณาเคลื่อนกองกำลังทหารและพลเรือนย้าย มาจากเมืองหนองคาย มาไว้ ณ บ้านเดื่อหมากแข้ง เมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๔๓๖


ศาลหลักเมืองประจำจังหวัดอุดรธานี ถือเป็นสถานที่สำคัญในการดำรงและสืบสันติสุขของประชาราษฎร์จังหวัดอุดรธานี ศาลหลักเมืองเดิมได้รับความร่วมมือจากข้าราชการ พ่อค้าประชาชนในสมัย นายจินต์ รักการดี เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ทำการวางศิลาฤกษ์เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๒ในช่วง ๓๙ ปีที่ผ่านมาศาลหลักเมืองเดิมได้มีสภาพชำรุดทรุดโทรมตลอดจนที่ตั้งภูมิทัศน์โดยรอบ ไม่เรียบร้อยเป็นศรีสง่าแก่สภาพบ้านเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปมาก ประกอบกับได้ตรวจสอบกับ กรมศิลปากร ไม่ปรากฏพระราชกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เกี่ยวกับศาลหลักเมืองอุดรธานีเลย จึงไม่ทราบได้ว่ามีการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตหรือไม่ ประการใด และจากการปรึกษาหารือของ คณะพ่อค้า คหบดี ประชาชนชาวจังหวัดอุดรธานีได้มีความเห็นว่า ควรที่จะปรับปรุงหรือก่อสร้างศาลหลักเมืองใหม่ เพื่อความสง่างาม และวัฒนาถาวรเนื่องจากเป็นสถานที่ศักสิทธิ์ประจำจังหวัดอุดรธานี จึงได้นำเรื่องเข้าปรึกษากับผู้ว่าราชการจังหวัดในขณะนั้นคือ นายดำรง รัตนพานิช ซึ่งก็ได้รับความเห็นชอบ และแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษาหาข้อมูลในการก่อสร้าง ต่อมาในปี ๒๕๓๘ นายดำรง รัตนพานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ร่วมกับทางราชการ พ่อค้า คหบดี และประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตก่อสร้างศาลหลักเมืองประจำจังหวัดอุดรธานี สำนักพระราชวังได้มีหนังสือแจ้งจังหวัดอุดรธานี ในการที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาต เมื่อวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๓๘ สถาปนิกผู้ออกแบบสร้างศาลหลักเมืองใหม่ คือ ศิลปินแห่งชาติ ดร.ภิญโญ สุวรรณคีรีโดยมีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานของไทยอีสาน มีลักษณะสวยงามมาก ในปี พ.ศ. ๒๕๓๙ นายวิชัย ทัศนเศรษฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้อำนวยการก่อสร้าง จนแล้วเสร็จสมดังเจตนารมย์ของส่วนรวมโดยได้อัญเชิญ องค์ท้าวเวสสุวัณ อันเป็นสัญญลักษณ์ ของเมืองอุดรธานีมาประดิษฐานเคียงคู่กับอาสน์ศาลหลักเมืองใหม่ พร้อมกันอีกโสตหนึ่งด้วย นอกจากนี้โครงการสร้างศาลหลักเมืองประจำจังหวัดอุดรธานี ยังเป็นโครงการที่รัฐบาลให้เป็น โครงการเฉลิมพระเกียรติ โครงการหนึ่งในวาระสมัยอันเป็นมงคลที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงเจริญพระชนมายุ ๗๒ พรรษา ในปีพุทธศักราช ๒๕๔๒ ซึ่งชาวจังหวัดอุดรธานีได้มีจิตสมานฉันท์น้อมเกล้าฯน้อมกระหม่อมฯ สร้างศาลหลักเมืองถวาย เพื่อเป็นมิ่งมงคลแห่งพสกนิกรชาวจังหวัดอุดรธานี ในวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๔๑ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯโปรดกระหม่อมฯให้นายวิชัย ทัศนเศรษฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยคณะกรรมการดำเนินการสร้างศาลหลักเมือง จำนวน ๓๙ คนเข้าเฝ้า น้อมเกล้าฯ น้อมกระหม่อมฯ ถวายยอดเสาหลักเมือง เพื่อทรงพระสุหร่าย และทรงเจิม ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต หลังจากนั้นได้กราบอาราธนาสมเด็จพระพุฒาจารย์ ทรงอัญเชิญ ยอดเสาหลักเมืองขึ้นประดิษฐานเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๑ นับว่า เป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯโปรดกระหม่อมฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์มาทรงเปิดศาลหลักเมืองประจำจังหวัดอุดรธานี ในวันศุกร์ที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๔๒ปวงประชาพสกนิกรชาวจังหวัดอุดรธานี มีจิตสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น พร้อมกับปลื้ม ปิติโสมนัส ได้มีศาลหลักเมืองประจำจังหวัดอุดรธานี อันเป็นสถานที่มหามงคล เป็นศูนย์รวมจิตใจ คุณธรรมความดี และความรุ่งโรจน์สถาพร ของจังหวัดอุดรธานี และประเทศชาติ อันเป็นส่วนรวมสืบไปชั่วกาลปวสาน

มูลนิธิเพื่อทนุบำรุงศาลหลักเมืองอุดรธานี
บริเวณทุ่งศรีเมืองอุดรธานี ถนนพานพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี โทร.O-๔๒๒๔-๘๕๘๙

ภาพประกอบ ขอบคุณ คุณธานินท์ วงอาษา

ไม่มีความคิดเห็น: